10.25.2011

ทำไม น้ำท่วมปีนี้ถึงสาหัส


ทำไม ไม่มีใครบอกคนไทยว่า  สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้จะรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ
น้ำท่วมปีนี้ทำให้นึกถึงตอนเราทำภาคสนาม  ช่วงเตรียมการ  เราดูแผนที่อากาศของไทย, CNN, CIA, Singapore ซึ่งเป็นข้อมูลจากดาวเทียม สามารถจะบอกได้ล่วงหน้า 1 เดือน ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีพายุฝนหรือไม่ สัปดาห์ไหนเราจึงจะรอดปลอดภัยซึ่งค่อนข้างแม่นยำ ภาคสนามมัธยมแต่ละครั้งอากาศจึงเป็นใจเสมอมา 

ภาพถ่ายดาวเทียมพื้นๆ ก็บอกสภาพอากาศพอได้แล้ว
แต่รัฐบาลนี้ มีข้อมูลจากเทคโนโลยีชั้นนำ เป็นข้อมูล exclusive จาก ดาวเทียม แผนที่อากาศ ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ โปรแกรมที่ช่วยการประมวลข้อมูล แถมผู้เชี่ยวชาญระดับดอกเตอร์เดินกันให้เกลื่อนกระทรวง   แต่คำนวณกันไม่เป็นหรือว่า แต่ละเขื่อนมีน้ำเท่าไหร่ รับน้ำได้เท่าไหร่ ปริมาณน้ำฝนที่ตกเหนือเขื่อนจะมีเท่าไหร่  จะมีพายุอะไรมาอีกเมื่อไหร่ ควรเริ่มระบายน้ำมาเรื่อยๆ  แล้วแจ้งประชาชนให้ทราบเป็นระยะ จะได้ไม่ตื่นตกใจกันมาก 

ชักจะเชื่อที่เขาบอกว่า ข้าราชการบอกให้ระบายน้ำในเขื่อนออกมาก่อน แต่ผู้บริหารปลอดประสบการณ์บอกว่า ให้กักเอาไว้ จนมันใกล้ล้นทะลัก อั้นไม่ไหวแล้วจึงได้ปล่อยออกมาพรวดๆ

ถ้าเห็นว่า หนักหนาสาหัสจริง ก็ต้องมีแผนการเตือนภัยไว้ล่วงหน้า  ควรจะบอกได้ไม่ยากว่า พื้นที่ใดบ้างจะได้รับผลกระทบมากน้อยอย่างไร  นิคมอุตสาหกรรมต้องได้รับการเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์เพื่อให้เขาเตรียมการได้  ที่จริง ตั้งแต่เจอพายุนกเตน และไห่ถ่าง ก็ควรจะทำแผนรับมือภัยพิบัติไว้รอแล้ว

เปิดเวบของสิงคโปร์ ก็เห็นปริมาณน้ำฝนในภูมิภาคแล้ว
ฟังสัมภาษณ์ชาวบ้านคนหนึ่งแถวบางบัวทองว่า  ทำไมรัฐบาลบอกว่า ไม่เป็นไร เอาอยู่  ทำไมไม่บอกความจริงไปเลย กลัวคะแนนตกหรือ อย่ามาอ้างเรื่องชาวบ้านจะตื่นตระหนก เพราะในที่สุดก็ต้องเผชิญความจริง  สู้ตื่นตระหนกแล้วพร้อมป้องกัน ทุกคนปลอดภัย ข้าวของไม่เสียหาย หรือเตรียมใจไว้รับมันดีกว่าแบบนี้  

คิดได้คิดเป็นอย่างนี้ น่าจะเชิญไปเป็นนายกฯ

สรุปแบบกระชับก็คือ พายุฝนเป็นเรื่องฟ้ากำหนด แต่การจัดการเป็นเรื่องของผู้นำ ถ้าบริหารจัดการได้ห่วย คนรับกรรมก็คือไพร่ฟ้าตาดำๆ อย่างเรา


No comments: