9.25.2010

Assume = (make an) Ass (of) U (and) Me


เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น  ซาร่าต้องส่งชิ้นงานสมุดภาพรามเกียรติ์  เธอไปเลือกตอน “หนุมานฆ่าภานุราช” เพราะจำได้ว่า  แม่เคยอ่านให้ฟังตอนเด็กๆ ว่ามีใครสักคน “คว่ำแผ่นดิน”   ในบทกลอนรามเกียรติ์ตอนนี้มีชื่อตัวละครที่เราไม่ค่อยคุ้น 2 ตัวคือ ภานุราช และ “ประคนธรรพ”
ทั้งแม่ทั้งลูกหาข้อมูลเรื่อง 2 ตัวละครนี้จากหลายแหล่ง  แต่ไม่สำเร็จ  ในที่สุดก็เจอภาพที่อยู่ที่ระเบียงฝาผนังวัดพระแก้ว  เห็นตัว คุณภานุราช ที่เป็นยักษ์ตัวดำๆ ใหญ่ๆ ยืนอยู่ใต้ดินแบกแผ่นดิน แต่อย่างไรก็ยังหาตัวคุณประคนธรรพไม่เจอ เห็นแต่ผู้ชายตัวสีชมพูเดินอยู่กับหนุมาน
แต่เพราะเราสองคนเชื่อมั่นว่า ประคนธรรพต้องเป็นลิง ก็เลยไม่สนใจ  มัวแต่สงสัยว่าลิงตัวไหนที่ใช่ ขนาดเห็นที่แผ่นซุ้มประตูมีมนุษย์ถือพระขรรค์ เขียนว่า “ปโคนทัพ” ก็ยังสงสัยว่าใช่ตัวเดียวกันหรือเปล่า ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ซาร่าบอกว่า จะย้อนไปดูภาพห้องแรกๆ  ก็โชคดีที่ไปดูภาพตอนที่คณะลิงไปเจอประคนธรรพแล้วพามาเฝ้าพระราม  ในโคลงบรรยายว่า เป็นพวก “นักสิทธิ์” เราก็เลยได้คำตอบว่า เป็นพวกคนธรรพ์นั่นเอง
สอนซาร่าไปว่า อันตรายของการ assume คืออย่างนี้  ถ้าหากเรามี preconception ซะแล้ว  เราก็มักจะพลาดการที่ได้รู้จักสิ่งนั้นจริงๆ   อาจารย์ของเราย้ำแล้วย้ำอีกว่าการ assume นี้อันตรายอย่างที่สุดสำหรับนักวิจัย จำไว้เลยว่า assume means making an ass out of u and me ถ้าเหมาเอาว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เมื่อไหร่ ก็เท่ากับเอาความโหลยโท่ยของเธอและฉันมารวมกัน  เราเป็นนักวิจัยต้องไม่ตกหลุมพรางนี้  อาจารย์สั่งสอนไม่รู้กี่ครั้ง  แต่ลูกศิษย์ดันพลาดตกหลุมไปโครมเบ้อเริ่ม

No comments: