เมื่อหลายเดือนก่อน เขียนคอลัมน์ให้หนังสือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยอนุบาล เรื่อง social network ได้เขียนเชียร์ farmville ไว้มากมาย ...
"กิจกรรมหนึ่งบน facebook ที่ดึงดูดให้คนสมัครเข้ามาใช้ และกลับมาใช้เป็นประจำคือ เกมประเภทที่เรียกว่า “social game” หรือเกมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์เชิงบวก คือแทนที่จะเล่นแต่เกมต่อสู้กัน เขาเปลี่ยนเป็นการให้ของขวัญ การเยี่ยมเยียนกัน บางเกมมีแนวคิดที่น่าสนใจ เช่นเน้นให้ ฝึกการวางแผนเวลา การแสดงน้ำใจ ดูแลเพื่อนบ้าน มีอะไรก็แบ่งปัน รู้จักขอความช่วยเหลือ ฯลฯ พฤติกรรมเหล่านี้ คนออกแบบเกมบอกว่าจะนำไปสู่สังคมอุดมการณ์ แต่เขาอาจจะลืมนึกไปว่า พฤติกรรมการเล่นเกมนี้อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่หรือหัวหน้าไม่พอใจเอามากๆ เพราะก็ทำให้ลูก (และลูกน้อง) ไม่เป็นอันทำอะไร เอาแต่เก็บผัก เลี้ยงไก่ สะสมของขวัญ ฯลฯ ทราบมาว่า หลายองค์กรถึงกับสกัดพนักงานไม่ให้เข้าเวบไซท์เหล่านี้กันทีเดียวค่ะ
ถ้าเราถอดแนวคิดจากเกมเหล่านี้ เราจะเห็นได้ว่า การสร้างเครือข่ายทางสังคมนี้ไม่ได้ยากเย็น เป็นเรื่องใหญ่โตเลย แต่น่าประหลาดใจมากที่เด็กจำนวนไม่น้อยขาดทักษะการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คน ลองใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือฝึกลูกเรากันนะคะ
ก้าวแรกของการสร้างเครือข่ายสังคม: Hello … how are you? ทักทายกันก่อน …
ที่จริง ยังมีการทักทายกันอีกหลายแบบ เช่น
• How do you do? (มักใช้กับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน)
• How have you been? (อันนี้เคยรู้จักกันแล้ว แต่ไม่เจอหน้ากันมานาน)
ก้าวที่สอง แบ่งปันน้ำใจ … May I help you?
• May I help you? มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ (บางคนก็บอกว่า How may I help you?)
• Would you like a glass of water ? – นึกถึงภาพคุณแม่กลับมาบ้านเหนื่อยๆ แล้วลูกบอกว่า คุณแม่ ดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้วนะคะ … หายเหนื่อยจริงๆ เพราะลูกเราน่ารัก มีน้ำใจ
• Let me carry this tray to the kitchen … ให้หนูช่วยยกถาดไปเก็บในครัวนะคะ หรือ Here is a napkin. กระดาษเช็ดปากค่ะ … นี่เป็นขั้นที่สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง คือ เสนอบริการให้โดยที่เขาไม่ต้องขอ … ซึ่งลูกจะต้องฝึกเรื่องการสังเกตคนและสถานการณ์รอบตัว เขากำลังต้องการอะไรอยู่นะ
ทักษะหรือจิตใจบริการแบบนี้จะไม่เกิดแน่นอนหากเราไม่ฝึกลูก
ก้าวที่ 3 … บอกความต้องการของตัวเอง (อย่างถูกกาลเทศะ) … Could you please …?
• Could you please hand me a pencil? ลูกช่วยส่งดินสอมาให้แม่หน่อยนะคะ
• Could you pick up the phone? ลูกช่วยรับโทรศัพท์ด้วยค่ะ (แต่อย่าลืมสอนลูกตอบโทรศัพท์ก่อนนะคะ ไม่งั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะเสียเพื่อนได้ทีเดียวค่ะ)
• Could you turn down the volume? หรี่เสียงหน่อยนะคะ (แม่หูจะดับแล้วจากเสียงเพลงของลูก)
• บางครั้ง เขาก็จะบอกว่า “Could you do me a favor?” ถามก่อนเลยค่ะว่า จะพอช่วยกันหน่อยได้ไหม … แล้วค่อยบอกความต้องการของเรา
• แต่ … ลูกจะต้องรู้ก่อนว่า อะไรเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยดูแลให้เหมาะกับวัยของเขาด้วย เช่น ถ้าลูกอายุ 12 อยู่ในภาวะปกติดี แต่ยังให้คุณพ่อไปนอนเป็นเพื่อนเพราะกลัวผี .. หรือให้แม่ป้อนข้าวให้ อันนี้คงจะไม่เหมาะกับวัยแล้วค่ะ
การฝึกลูกให้พูดประโยคอย่างนี้จะช่วยให้เขาเข้าใจได้ว่า เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้ ...
ที่เหลือ ต้องไปหาอ่านเอาจาก Kids&School แต่แค่นี้ก็พอ ... ขอมอบให้เพื่อนชาวเกษตรกร on-lineของเราค่ะ
No comments:
Post a Comment