9.04.2011

ภูมิรักษ์: นาลอยน้ำ เมื่อถึงวันที่ไม่มีดินให้ปลูกข้าว


นาลอยน้ำ อายุ 4 สัปดาห์
 ในยามที่คนไทยต้องประสบภาวะวิกฤตจากภัยธรรมชาติจนไม่เหลือพื้นดินไว้ให้ปลูกข้าว  ก็ดูเหมือนว่า คนในศูนย์ภูมิรักษ์คงยังพอจะมีข้าวจากนาลอยน้ำ  แต่วิธีการทำอย่างไร  ต้องให้นักเรียนเพลินฯ ช่วยกันอธิบาย

สุมหัวกันจริงๆ



เย็นวันแรกของภาคสนาม  เราแบ่งเป็น 11 กลุ่ม คละชั้นเรียน พร้อมกระดาษ flip chart กลุ่มละใบ และสีชอล์คหรือสีเมจิก  แต่ละกลุ่มมีเวลา 2 นาทีที่จะอธิบายให้แม่ต้นเข้าใจว่า นาลอยน้ำคืออะไร ทำอย่างไร   เด็กแต่ละกลุ่มมีวิธีการอธิบายด้วยรูปแบบต่างๆ กัน บางกลุ่มก็ทำ concept map บางกลุ่มก็ทำ list โยงให้ดู บางกลุ่มใช้การวาดภาพ ฯลฯ  แต่เมื่อครบ 2 นาทีแล้ว  ก็ให้ส่งกระดาษนั้นต่อไปให้กลุ่มที่อยู่ทางซ้ายมือ เพื่อเติมต่อส่วนที่ขาดหายไป

 

ทีมนี้ เริ่มด้วย concept map 
เราทำอย่างนี้อยู่ประมาณ 6-7 รอบ

แม่ต้นขอให้แต่ละกลุ่มหากระดาษของตัวเองให้เจอ  เพื่อจะได้ดูว่า เพื่อนได้เติมอะไรให้กับงานของเราบ้าง  เห็นไหมว่า ภาพของเราสมบูรณ์ขึ้นเพราะมีคนช่วยกันเติม  แม่ต้นจบกิจกรรมนี้ด้วยการให้นักเรียนสรุปบทเรียนจากศูนย์ภูมิรักษ์ฯ
ทีมนี้เน้นการเติมภาพให้งานของทีมอื่นๆมีชีวิตชีวา

ได้ความว่า นาลอยน้ำมีหลักการคือ  การสร้าง "ผืนนา" ที่ลอยน้ำได้ ใช้ดินที่ผลิตขึ้นเองในภาวะที่ดินขาดแคลน (เพราะน้ำท่วมหมด)  เมื่อเข้าใจหลักการนี้ก็หาวัสดุมาทำ  ที่เห็นวันนี้ คือขวดน้ำพลาสติกปิดฝาใช้ทำเป็นทุ่นอยู่ชั้นล่างสุด แล้วเอาเชือกมามัดไม้ไผ่หรือท่อPVC ไว้เพื่อทำหน้าที่ช่วยพยุงที่นา และเป็นขอบกระบะกันดิน  ดินนี้ก็ผสมขึ้นมาจากผักตบชวา หญ้าแห้ง ดิน จอกแหน

เมื่อเตรียม "ที่นา" แล้วก็เอาข้าวมาปลูกได้ ไม่กี่เดือนก็จะได้ข้าวเอามากิน  คุณลุงปัญญาบอกว่า วันใดที่น้ำท่วมมากๆ คุณลุงก็เอาบ้านแพที่มีนาข้าวไปเยี่ยมหลานๆ แล้วก็แบ่งข้าวกันกิน  ถ้าทุกคนทำเป็น เราก็ไม่อดตาย

ดูข้อมูลที่สมบูรณ์ขึ้นจากการเติมเต็ม
นับว่าเป็นกิจกรรมสรุปการเรียนรู้ที่ดีมาก เพราะเด็กๆ ได้ฝึกสรุปสาระ และยังพัฒนาวิธีการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อพัฒนาให้เป็นผลงาน "ของเรา" ทุกคน

เราสรุปกันว่า เพราะงานของเราไม่ perfect ที่เราต้องทำงานกับคนอื่น เรียนรู้จากคนอื่น เป็นการเติมเต็มกันและกัน   แต่ เราต้องเริ่มต้นด้วยตัวเอง โดยไม่คอยให้ใครมาเริ่มให้เรา 

No comments: