9.03.2011


โจทย์ต่อเนื่องจาก field trip: ดินเทศที่บ้านปราสาท

หลุมที่ 1  มีโครงกระดูกซ้อนกันหลายชั้น 3,000 ปี
พาเด็กๆ ไปศึกษาหลุมขุดค้นชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ที่บ้านปราสาทคราวนี้  เก็บโจทย์มาทำการบ้านต่อหลายข้อ  ข้อแรกคือ ดินเทศคืออะไร


คำตอบ: "พิธีกรรมของชนพื้นเมืองดั้งเดิมมักใช้สีแดงเป็นองค์ประกอบแพร่หลาย มาตั้งแต่ราว 18,000 ปีมาแล้ว สีแดงที่ได้มาจากแร่ เฮมาไทด์(Hematite)   หรือเรียกกันว่า ดินเทศ (Red Ochre) เป็นธาตุประกอบของเหล็กที่อยู่ในดิน  พบได้ทั่วไป ในประเทศไทยพบที่แหล่ง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช, เขาทับควาย จ.ลพบุรี, อ.ลานศักดิ์ จ.อุทัยธานี รวมทั้งใน จ.เลย, จ.เชียงใหม่, จ.สุราษฏร์ธานี, จ.สุโขทัย และ จ.นครสวรรค์
          ส่วนหนึ่งของพิธีกรรมเกี่ยวกับความตายนิยมใช้ดินเทศโรยหรือป้ายบนศพ เช่น บนโครงกระดูกพบที่จังหวัด Thanh Hoa บริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนาม, ในรัฐกลันตัน และรัฐซาราวัค ของมาเลเซีย รวมถึงหลายประเทศในผืนแผ่นดินใหญ่อุษาคเนย์และคาบสมุทรมลายู" (เจนจิรา เบญจพงศ์ http://www.sujitwongthes.com/suvarnabhumi/2011/06/10062554/) 

close-up หลุม 2
Aha...!!!  ถ้างั้นก็เข้าเค้า  เพราะตอนที่เรียน Archeology ก็พูดถึง Ochre ว่าเป็นสีที่ชนพื้นเมืองจะทั่วโลก (Aborigines, อินเดียนในแถบแคลิฟอร์เนีย อเมริกาใต้ และอัฟริกา) ใช้สำหรับพิธีกรรม และงานประดิษฐกรรม เช่น ปั้นหม้อ ทำเครื่องประดับที่ทำจากดิน  ถ้าเก่าแก่ไปกว่านั้นก็คือพวกที่เขียนสีตามถ้ำโบราณ  แม้ว่าสีแดงจะนิยมมาก แต่ที่จริง Ochre มีหลายสี เช่น เหลือง ขาว

จำได้ว่า Hematite เป็น iron oxide อยู่ในดินและหิน อาจารย์บอกว่ามาจากภาษากรีก Hema แปลว่าเลือด  ก็เป็นสีแดงเหมือนเลือด ที่เชื่อกันว่า จะให้พลังกับวิญญาณของผู้ตาย ที่หลุมขุดค้นบ้านปราสาทซึ่งมีอายุประมาณ 3,000 ปี ทั้งศพเด็กและผู้ใหญ่จะพบร่องรอยของ 'ดินเทศ' อยู่โหนกแก้ม และข้างศพบริเวณท่อนบนของร่างกาย เช่น ซี่โครง แต่ไม่มีที่ท่อนล่าง  บางโครงก็มีหม้อดินเข้าใจว่า เป็นเครื่องสังเวย หรือเป็นเสบียงสำหรับเดินทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง
หลุมนี้มีโครงกระดูกเด็กๆ ด้วย

แต่หลุมที่น่่าเอามาเขียนนิยายต่อคือ หลุม 3 ที่มีศพผู้ใหญ่ และเด็ก หนึ่งในศพผู้ใหญ่ไม่มีหัว  ซึ่งก็ไม่ทราบความเป็นมา  ถ้าไม่หายไปสมัยหลัง ก็เป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นการฆาตกรรม หรือการประหารชีวิต (มัคคุเทศน์ตัวน้อยว่าอย่างนั้น)  ถ้าเป็นการประหารชีวิตหัวหน้าครอบครัวพร้อมทั้งครอบครัวก็อาจเป็นไปได้  แต่ทำไมจึงมีการฝังอย่างเป็นระเบียบ ... อาจเป็น somebody ของชุมชน เพราะมีเครื่องประดับมากมาย  กึ๋ยยย



No comments: