9.04.2011

วังน้ำเขียว:คุณวีระ Mr.Mushroom

Mr.Mushroom คุณวีระ ภัทรานันท์
นักเรียนชั้น 9 ได้มีโอกาสพบกับคุณวีระ ภัทรอานันท์ เจ้าของฟาร์ม Mr.Mushroom ที่แม่ต้นขอให้ช่วยคุยกับเด็กๆ เรื่องธุรกิจ และชีวิตเพื่อเตรียมตัวก่อนเรียนจบชั้น 9  ดังนั้น ไม่ต้องเล่าเรื่องการเพาะเห็ดซึ่งเด็กๆ เคยเรียนรู้มาจากฟาร์มที่ราชบุรีเมื่อสมัยเขาอยู่ชั้น 7  มาเรียนรู้วิธีคิดในการทำธุรกิจด้วยเลย  คุณวีระบอกหลักคิด 2-3 ข้อ คือ
  • เลือกผลิตสินค้าที่จีนจะลอกเลียนแบบได้ยาก ซึ่งก็คือ อาหารและการท่องเที่ยว 
  • เมื่อจะผลิตอะไร ก็ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ที่ผลิตเห็ดไม่ได้มุ่งหวังจะขายเห็ดสด แต่มุ่งไปที่สรรพคุณในฐานะที่เป็นยา สำหรับตลาดคนรักสุขภาพ  ดังนั้น เห็ดที่เลือกมาเพาะจึงเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางยาสูง คือเห็ดหลินจือ เห็ดหอม และเห็ดหัวลิง
  • วิธีการ และกระบวนการผลิตจะต้องมีประสิทธิภาพสูง  ใช้เวลาศึกษาจนเข้าใจว่า คนทั่วๆ ไปที่ทำธุรกิจเพาะเห็ดพบกับอุปสรรคอะไร จากปัจจัยอะไร เช่น โรงเพาะเห็ดส่วนมากมีปัญหาการสะสมตัวของศัตรูเห็ด  ส่วนมากพยายามใช้ก้อนเห็ดจนหมดอายุ ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำช่วงท้ายๆ และขายไม่ได้ราคาดี  คุณวีระจึงลงทุนทำเรือนเพาะเห็ดแบบเทปูน กำหนดอายุก้อนเชื้อแค่ 6 เดือน หลังจากนั้นก็เปลี่ยนชุดใหม่
  • เลือกเพาะเห็ดที่จะทำเป็นยา
    เห็ดหัวลิง
  • ลูกค้าเห็ดของคุณวีระคือลูกค้าที่มากับการท่องเที่ยว ดังนั้นการจัดพื้นที่สำหรับขายเห็ด และให้บริการต่างๆ เช่นให้ชมโรงเพาะเห็ดไปด้วยก็ทำให้กิจการ Mr.Mushroom ไปด้วยกันได้อย่างดีกับทิศทางการพัฒนาของวังน้ำเขียว
เรื่องการทำกิจการนี้อาจจะดูไกลตัว  คุณวีระเล่าเรื่องลูกชายคนโตซึ่งอยู่ในวัยเดียวกับเด็กชั้น 9  ว่าการทำธุรกิจเห็ดในช่วงแรกต้องอาศัยเงินลงทุนสูงมาก หมุนเงินไม่ทัน ไม่สามารถจะซื้อเกมส์บอยให้ลูกชายได้  ทำให้หนุ่มน้อยที่สมัยนั้นอายุ 13-14 ปีถึงกับโกรธพ่อ ไม่ยอมพูดด้วยไป 3 วัน  คุณวีระพลิกสถานการณ์ด้วยการเล่าสถานการณ์การเงินให้ลูกฟัง  บอกว่า ถ้าอยากได้จริงๆ ก็มาใช้พื้นที่ที่โรงเพาะเห็ดนี่หารายได้  ได้เงินเท่าไหร่ หักลบต้นทุนแล้ว เอาไปซื้อเกมกดได้เลย

ลูกชายก็ทำกิจการขายนมสดเล็กๆ ออกไปซื้อนมมาต้มเอง ใส่ขวด ติดยี่ห้อเอง ขายเอง เก็บเงินทำบัญชีเอง คงเหนื่อยเอาการ  เมื่อหาเงินได้ครบ 10,000 บาท ก็ตัดสินใจไม่ซื้อเกมบอย แต่วางเป้าหมายใหม่ จะเก็บเงินซื้อคอมพิวเตอร์ เพราะเอามาใช้ในกิจการของตัวเองได้  ตอนนี้ หนุ่มน้อยอายุ 16 เรียนหนังสือที่โรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ เป็นเจ้าของกิจการนมสด และเต้าหู้นมสด เฉพาะช่วงปิดเทอม

เรื่องที่เล่านี้  ทำให้นักเรียนชั้น 9 ของเรามีสายตาปิ๊งปั๊งขึ้นมาทันที 

No comments: